-คำสารภาพในสายฝน- - -คำสารภาพในสายฝน- นิยาย -คำสารภาพในสายฝน- : Dek-D.com - Writer

    -คำสารภาพในสายฝน-

    เรื่องราวความรักในหน้าฝน หญิงที่ทุ่มเทหัวใจให้ชายที่สุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง ทั้งสองคนต่างก็รักกัน ... แต่ก็ไม่กล้าที่จะพูดคำว่า "รัก" ออกไป ...

    ผู้เข้าชมรวม

    523

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    523

    ความคิดเห็น


    3

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  ซึ้งกินใจ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  7 มิ.ย. 55 / 13:23 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ความรัก .....

    สิ่งที่ไม่มีรูปร่าง ไม่มีตัวตน แต่รู้สึกได้ด้วย " หัวใจ "

    เมื่อเราคิดคิดถึงใครสักคน

    ห่วงใย อยากเห็นคนคนนั้นมีความสุข

    นั่นอาจหมายถึง เรารักเค้าแล้วก็เป็นได้.........




     
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ



      เมฆฝนที่ครึ้มปกคลุมทั่วผืนฟ้า
      บรรยากาศเงียบๆที่ไม่ค่อยมีผู้คนออกไปเดินเล่นกัน
      เพราะเมฆนั้นจะเปลี่ยนเป็นเม็ดฝนตกลงมาเมื่อไหร่ก็ไม่แปลกเลย...


      -ที่บ้านของ อาชิตะ-

      อาชิตะ..ชายหนุ่มผมสีขาวยาวไปถึงแผ่นหลัง คิ้วดำเข้มสมเป็นลูกผู้ชาย
       ตัดกับแววตาที่ดูอ่อนโยน สุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง..

      ในตอนนี้เขากำลังคุยกับเพื่อนสาวที่มาเยี่ยมเยียนถึงบ้าน
      และมาช่วยสอนหนังสือให้น้องสาวของอาชิตะ

      เมล่อน เธอเป็นผู้หญิงที่มีผมยาวสีชมพูสวย ดวงตากลมโต มีจิตใจที่ห่วงใยผู้อื่น
      โดยเฉพาะกับอาชิตะ.. ทั้งสองคนต่างก็มีใจให้กันแต่กลับไม่กล้าที่จะสารภาพต่อกัน


      "อา..นี่ก็จะห้าโมงแล้ว..ฉันต้องขอตัวกลับบ้านก่อนที่จะเย็นนะคะ"
      สาวน้อยร่างบางกล่าวด้วยเสียงที่นุ่มนวล

      "ฮื่อ..ดีแล้วล่ะกลับมืดค่ำจะเป็นอันตรายนะ...แล้วทานข้าวเย็นด้วยล่ะ"อาชิตะตอบ

      "ค่ะ..อาชิตะซังก็เช่นกันนะคะ ขอบคุณค่ะ"

      ทั้งคู่กำลังจะกล่าวลากัน แต่ในใจก็อยากจะอยู่ด้วยกันอีกหน่อย......

      "ไม่เอา! พี่สาวอย่าไปนะ" 

      น้องสาวของอาชิตะดึงชายเสื้อของหญิงสาวรั้งเธอไว้ เธออยากเล่นกับเมล่อนอีก
      อาชิตะมองยิ้มๆก็อยากจะตามใจน้องสาวแต่ก็คงจะไม่ได้

      "...งั้นพี่จะอยู่ที่นี่อีกหน่อยแล้วกันนะคะ" เมล่อนยิ้มหวาน 

      "เย้ เย้ แปบเดียวก็ยังดี"

      "อ้าว...จะดีรึ?" เมื่อได้ยินคำตอบที่เหนือคาดหมาย อาชิตะเบิกตากว้างตกใจพลางถาม
      หญิงสาวตอบไปว่าไม่อยากให้หนูน้อยที่รั้งเธอผิดหวัง 
      แต่ในใจก็อยากอยู่ต่อ...อยู่กับอาชิตะอีกหน่อย


      ชายหนุ่มก็วางใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาเองก็อยากจะอยู่กับเมล่อน..ให้นานเท่าที่จะทำได้
      เพราะในใจเค้ากังวล..กังวลเรื่องสุขภาพจะบั่นทอนเวลาที่ได้อยู่ด้วยกัน
      นี่อาจเป็นสาเหตุที่เค้าไม่กล้าเอ่ยคำว่า"รัก"กับเธอ เพราะหากเธอรับรักจากเขา
      เขาอาจไม่สามารถดูแลเธอได้ยาวนานเหมือนชายผู้อื่น...


      "อ่ะ....อึก...."

      โรคประจำตัวของอาชิตะเริ่มแสดงอาการออกมา
      เขากุมที่หน้าอกของตนไว้ พยายามจะไม่แสดงอาการให้หญิงสาวเห็น 
      แต่ก็เป็นไปไม่ได้เพราะเมล่อนได้รู้ว่าอาชิตะมีอาการแบบนี้เสมอ
      เธอคอยมองดูและสังเกตุอาการแทบตลอดเวลาด้วยความห่วงใย

      "ยา..อยู่ที่ไหนเหรอคะ..!?"

      หญิงสาวถามด้วยความเป็นห่วงพลางเข้าไปช่วยพยุงตัวอาชิตะให้นั่งบนเตียง
      น้องสาวรีบตอบให้ ความจริงแล้ววันนี้ต้องไปรับยาที่โรงพยาบาล
      แต่อาชิตะรู้ว่าเมล่อนจะมาเยี่ยมจึงตัดสินใจไปรับยาหลังจากที่เธอกลับไปแล้ว

      เมื่อได้รับรู้ความเป็นห่วงของเมล่อนก็ยิ่งเพิ่มพูนยิ่งเป็นเพราะเธอทำให้เธอยิ่งรู้สึกผิด
      หญิงสาวครุ่นคิดหาวิธีและได้นิ่งเงียบไปชั่วครู่

      "ยะ..ยัยน้องขี้ฟ้อง..."พี่ชายที่ฟังจนจบเค่นเสียงบ่นทั้งที่เจ็บ
      ทันทีที่ตัดสินใจได้ เมล่อนก็หยิบใบรับยาและลุกไปทันที
      "พี่สาวจะไปไหน?" เสียงเล็กไถ่ถามด้วยความสงสัยก่อนที่จะได้รับคำตอบแกมประชดว่า

      "พี่สาวจะไปรับยามาให้พี่ชายที่ไม่ยอมดูแลตัวเองของหนูน่ะค่ะ.."
      สิ้นเสียงหญิงสาวรีบออกจากห้องไปทันที

      "เดี๋ยวมันก็หายเอง...." อาชิตะพูดเบาๆ



      โชคยังดีที่โรงพยาบาลอยู่ไม่ไกลจากบ้านของชายหนุ่มมากนัก เธอจึงรีบวิ่ง
      เพื่อไปรับยามาให้อย่างเร็วที่สุด ...... 

      ในขณะที่เธอรอรับยาอยู่นั้นเธอได้โทรศัพท์ไปถามไถ่อาการของอาชิตะที่รอยู่ที่บ้าน
      แต่ก็กลายเป็นการโต้เถียงกันแทนเพราะต่างคนต่างก็ห่วงใยกันจนลืมตัวเอง

      "...เธอน่ะรีบร้อนเกินไปรู้ไหม..ฉันไม่ได้เป็นอะไรมาก เธอรีบวิ่งไปแบบนั้น
       ถ้าถูกรถ หรือมอเซอร์ไซค์เฉี่ยวเอาจะทำอย่างไร..."

      "ฉันเป็นห่วงอาชิตะซังนี่คะ...แถมยาในบ้าน...ก็ไม่มี 
       เกิดอาการหนักกว่านี้อาชิตะซัง...จะไม่ไหวนะคะ เดี๋ยวฉันจะเอายากลับไปให้นะคะ"

      "...เธอนี่ บอกแล้วไงว่าฉันไม่เป็นไรมาก 
      คิดมากไปแล้วนะ...ฉันก็ห่วงเธอนะ...เมล่อน"

      "ฉันน่ะไม่เป็นไรหรอกค่ะ...อาชิตะซัง..ไม่สบายนะคะ...."


      ซ่าาา...ซ่าาาา

      ในขณะที่ทั้งสองเถีียงกันทางโทรศัพท์ฝนก็ตกลงมา ค่อนข้างหนักทีเดียว
      เธอมองไปนอกอาคาร จึงตัดสินใจรอให้ฝนหยุดก่อน...เพราะเธอไม่ได้พกร่มติดตัวมาด้วย..
      ในมือเล็กของเธอมีเพียงยาที่รับมาแล้วกับโทรศัพท์
      อาชิตะที่เถียงกับเธอได้แสดงว่าอาการดีขึ้นไปเปลาะนึงแล้ว 
      เธอจึงวางใจที่จะรอและขอให้ไม่เกิดอาการขึ้นอีกครั้ง...

      "ทำไม...เธอถึงไม่เข้าใจฉันสักที...."
      หลังจากที่เถียงกันมาได้สักระยะหนึ่งอาชิตะก็เริ่มล้าพูดเสียงอิดโรยหญิงสาวเองก็เช่นกัน..

      "อาชิตะซังเองก็..เข้าใจฉันได้ไหมคะ..ว่าที่ฉันทำไปทั้งหมดว่า..เพราะอะไร..."

      "แล้ว...เพราะอะไรล่ะ..เมล่อน...?"


      ในขณะนี้คำว่า "รัก" จุกอยู่ที่อก....

      อยากจะเปล่งเสียงพูดคำพยางค์เดียวที่แสนมีความหมายสำคัญนั้นออกไป...
      แต่ก็ไม่ได้..เธอไม่กล้าพูดให้อาชิตะรับรู้ถึงเรื่องนี้กลัวจะทำให้เขาลำบากใจ
      หญิงสาวรู้ว่าชายหนุ่มเป็นคนดี เป็นคนที่อ่อนโยน เค้าพร้อมที่จะดูแลหญิงคนรัก..

      เธออยากที่จะเป็นคนรักของอาชิตะ....

      แต่ก็กลัวที่จะทำให้เค้าห่วงยิ่งไปกว่านี้ ยิ่งรักมากยิ่งห่วงใย
      ไม่อยากจะเป็นภาระให้เค้า....แค่ได้ดูแล...รักอยู่ห่างๆก็เป็นพอ

      เธอหารู้ไม่ว่าชายหนุ่มก็รักเธอเช่นกัน
       และอากจะเป็นชายหนุ่มผู้โชคดีที่ได้ชื่อว่าเป็นคนรักของหญิงสาวที่ชื่อเมล่อน
      เขาอยากที่จะรักและห่วงใยเธอเหมือนที่คนรักเขาทำกัน แต่ไม่กล้าบอกกับเธอ....
      เพราะกังวลว่าตัวเองจะมีชีวิตได้ไม่ยืนยาว....กลัวจะทำให้เธอเสียใจมากขึ้นถ้าเขาจากเธอไป

      "........"

      "พูดมาสิ....ว่าทำไม?.."

      ความลังเลในใจหญิงสาวส่งผลให้เธอพูดไม่ออก ชายหนุ่มซึ่งรอฟังก็ได้แต่อึดอัดหัวใจ...

      ".....อ่ะ แฮ่ก.."

      เสียงครวญครางด้วยความเจ็บปวดของคู่สนทนา ถึงหูเมล่อนโดยไม่ได้ตั้งใจ
      ใจของเต้นรัวและรับรู้ได้โดยไม่ต้องบอกว่าอาการของอาชิตะกำเริบอีกครั้ง..!

      เธอได้รีบหันขวับมองออกไปนอกอาคาร ฝน...ยังคงตก ไม่ได้ซาลงเลย
      แววตาของเธอฉายความกังวลออกมาอย่างเห็นได้ชัด เหงื่อเริ่มออกที่มือและสั่นเบาๆ

      "อะ...อาการเป็นอย่างไรบ้างคะ...อาชิตะซัง...."
      เสียงที่สั่นเครือเปล่งออกไป ทว่า ไม่มีเสียงที่ตอบรับมาทำให้เธอรู้สึกไม่ดีถึงที่สุด

      ตื๊ดดด....!

      สายที่ถูกตัดคาดว่ามาจากฝนที่ตกหนักทำให้สัญญาณขาดหายไป
      เธอ....มีทางเลือกสองทาง...ระหว่างรอให้ฝนหยุดตกรึว่าวิ่งผ่านฝนออกไป
      หญิงสาวเลือกอย่างหลังเพราะเป็นห่วงอาการของเขา อยากเอายาไปให้เขาเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้..

      "แฮ่ก...อา อาชิตะซัง..."

      ฝนที่สาดเข้าใส่หญิงสาวอย่างหนักไร้ซึ่งความเห็นใจ...เสื้อของเธอชุ่มน้ำทั้งเปียกและหนักขึ้น
      เพราะซับน้ำฝน หญิงสาวพยายามออกวิ่งเพื่อจะพ้นจากที่ตรงนี้ไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
      ทั้งที่มองทางแทบจะไม่เห็น ต่างกับขามาที่ไม่นานก็ถึงราวฟ้ากับเหว
      เวลาเหมือนผ่านไปช้าลงราวกับไม่ขยับ 
      เมื่อไหร่จะถึงเสียที ...เสียงร่ำร้องในใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า เธอกอดยาไว้แน่น..


      ตุบ...

      เมล่อนได้ชนกับอะไรบางอย่าง สัมผัสที่อบอุ่น..และฝนรอบตัวเธอก็คล้ายจะหยุดลง..
      ทั้งทีเสียงฝนยังได้ยินชัดเต็มสองหู..
      เธอค่อยๆลืมตาขึ้นอย่างช้าๆและได้พบกับชายหนุ่มตรงหน้า..อาชิตะ
      ซึ่งถือร่มเดินจากบ้านมารับเธอ แต่กลับพบกันกลางทาง

      "รอสักหน่อย...ฉันก็จะไปรับแล้วแท้ๆนะ...ดูสิเปียกไปหมดเลยนะ..."

      เสียงใหญ่ที่เปี่ยมไปด้วยความอ่อนโยนบ่งบอกถึงความเป็นห่วง
      อยากจะบ่นว่าห่วงคนอื่นมากกว่าตัวเองอีกแล้ว..
      แต่ดูจากสภาพที่เปียกปอนอ่อนแรงของหญิงสาวผมสีชมพูก็พูดไม่ออก...

      "ฉัน...กลัวนี่คะ...อาการก็กำเริบขึ้นมาแบบนั้น..โทรศัพท์ไปถามก็ไม่ได้...
       ไม่มีทางเลือกอื่น ฉันอยากให้อาชิตะซัง ได้รับยาเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้น่ะค่ะ..."

      รู้อยู่แล้ว ...  ชายผมสีขาวรู้ว่าเธอเป็นห่วงเขามากแค่ไหน
      เขาพยักหน้าช้าๆ ก่อนที่จะสวมกอดหญิงสาวที่เปียกไปด้วยน้ำฝน

      "อ่ะ..เอ๋.." เมล่อนหน้าขึ้นสีอย่างเห็นได้ชัด ตกใจกับการกระทำของอาชิตะ 
      เธอแอบดีใจ แต่ก็สับสน... 

      "เอ่อ...ฉันเปียกอยู่นะคะ..." เสียงหวานเอ่ยเบาๆ
      แต่ชายหนุ่มไม่ได้ตอบ แต่กลับเอ่ยถามหญิงสาวแทน

      "เธอ...ดีกับฉันขนาดนี้เพราะอะไรงั้นรึ..?"

      "อา...เอ่อ.." ฝ่ายที่ถูกถามอึกอักเช่นเคย แต่คราวนี้ชายหนุ่มไม่ได้คาดคั้นคำตอบแต่กลับพูดว่า..

      "เมล่อน..."

      "คะ..?"

      "ฉันรู้ตัวดีว่าร่างกายของฉันไม่แข็งแรงเหมือนผู้อื่น และเวลาในชีวิตที่เหลืออาจจะมีไม่มากนัก.."

      หญิงสาวฟังเงียบๆ...

      "....แต่ ถึงจะเป็นแบบนั้น ฉันก็อยากให้เธอรับรู้เอาไว้ว่า แม้เวลาของชั้นจะน้อยแค่ไหน
       แต่ฉันอยากที่จะมอบมันให้เธอ...ทั้งชีวิตของฉันอยากจะใช้กับเธออยู่ร่วมกับเธอ
       ฉันอยากเป็นคนผู้นั้นคนที่คอยดูแลเธอทั้งหัวใจตลอดไปจนชีวิตจบลง....
      ขอให้ฉันได้เป็นคนรักที่ดูแลเธอบ้างได้ไหมฉันรักเธอนะ...เมล่อน"

      น้ำเสียงที่หนักแน่น ความรู้สึกที่จริงใจจากชายหนุ่ม
      ทำให้หญิงสาวผมสีชมพูมีใบหน้าที่แดงระเรื่อ .... ดีใจ ดีใจอย่างพูดไม่ถูก
      เธอไม่นึกไม่ฝันมาก่อนว่าเขาจะคิดเหมือนกับเธอ ใจตรงกันกับเธอ...

      "ฉัน...รัก...อาชิตะซังนะคะ.."

      คำพยางค์เดียวที่กลั้นเอาไว้มาแสนนานถูกเอ่ยเอื้อนจากเสียงเล็ก
      คราวนี้ใบหน้าของชายหนุ่มเองก็แดงตามอีกคนไปแล้ว
      ทั้งสองคนยิ้มไม่หุบเมื่อได้รับรู้ความในใจ

      ได้รับรู้ว่าคิดเหมือนกันมาตลอด...
       
                               รักกันมาตลอด....


      ฝนที่หยุดตกตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้......
       แสงแดดอ่อนๆสาดส่องหลังฝนช่างเป็นภาพที่สวยงาม
       อ้อมกอดที่อบอุ่นทำให้หญิงลืมความหนาวจากเสื้อผ้าที่เปียกน้ำจนตอนนี้เริ่มจะแห้งแล้ว

      สีหน้าของทั้งสองเต็มไปด้วยความสุข...... 

      หลังจากนี้ก็ไม่ต้องปิดบังอะไรอีกแล้ว.....

      ความรู้สึกที่ซ่อนอยู่คำว่ารักที่กลั้นไว้...

      พูดออกไปได้ตรงๆทุกครั้ง คำสั้นๆที่ฟังแล้วชื่นใจ...


      "ฉันรักเธอ"



      -----------------------------------------


      จบแล้ว _ _" ตั้งใจเขียนแนวรักครั้งแรก ไม่สนุก+มีส่วนที่ไม่เข้าใจตรงไหน ก็ขออภัยด้วยนา
      ขอให้สนุกกับเรื่องราวสั้นๆเรื่องนี้ ^ ^....
      nu eng

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×