เมฆฝนที่ครึ้มปกคลุมทั่วผืนฟ้า
บรรยากาศเงียบๆที่ไม่ค่อยมีผู้คนออกไปเดินเล่นกัน
เพราะเมฆนั้นจะเปลี่ยนเป็นเม็ดฝนตกลงมาเมื่อไหร่ก็ไม่แปลกเลย...
-ที่บ้านของ อาชิตะ-
อาชิตะ..ชายหนุ่มผมสีขาวยาวไปถึงแผ่นหลัง คิ้วดำเข้มสมเป็นลูกผู้ชาย
ตัดกับแววตาที่ดูอ่อนโยน สุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง..
ในตอนนี้เขากำลังคุยกับเพื่อนสาวที่มาเยี่ยมเยียนถึงบ้าน
และมาช่วยสอนหนังสือให้น้องสาวของอาชิตะ
เมล่อน เธอเป็นผู้หญิงที่มีผมยาวสีชมพูสวย ดวงตากลมโต มีจิตใจที่ห่วงใยผู้อื่น
โดยเฉพาะกับอาชิตะ.. ทั้งสองคนต่างก็มีใจให้กันแต่กลับไม่กล้าที่จะสารภาพต่อกัน
"อา..นี่ก็จะห้าโมงแล้ว..ฉันต้องขอตัวกลับบ้านก่อนที่จะเย็นนะคะ"
สาวน้อยร่างบางกล่าวด้วยเสียงที่นุ่มนวล
"ฮื่อ..ดีแล้วล่ะกลับมืดค่ำจะเป็นอันตรายนะ...แล้วทานข้าวเย็นด้วยล่ะ"อาชิตะตอบ
"ค่ะ..อาชิตะซังก็เช่นกันนะคะ ขอบคุณค่ะ"
ทั้งคู่กำลังจะกล่าวลากัน แต่ในใจก็อยากจะอยู่ด้วยกันอีกหน่อย......
"ไม่เอา! พี่สาวอย่าไปนะ"
น้องสาวของอาชิตะดึงชายเสื้อของหญิงสาวรั้งเธอไว้ เธออยากเล่นกับเมล่อนอีก
อาชิตะมองยิ้มๆก็อยากจะตามใจน้องสาวแต่ก็คงจะไม่ได้
"...งั้นพี่จะอยู่ที่นี่อีกหน่อยแล้วกันนะคะ" เมล่อนยิ้มหวาน
"เย้ เย้ แปบเดียวก็ยังดี"
"อ้าว...จะดีรึ?" เมื่อได้ยินคำตอบที่เหนือคาดหมาย อาชิตะเบิกตากว้างตกใจพลางถาม
หญิงสาวตอบไปว่าไม่อยากให้หนูน้อยที่รั้งเธอผิดหวัง
แต่ในใจก็อยากอยู่ต่อ...อยู่กับอาชิตะอีกหน่อย
ชายหนุ่มก็วางใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาเองก็อยากจะอยู่กับเมล่อน..ให้นานเท่าที่จะทำได้
เพราะในใจเค้ากังวล..กังวลเรื่องสุขภาพจะบั่นทอนเวลาที่ได้อยู่ด้วยกัน
นี่อาจเป็นสาเหตุที่เค้าไม่กล้าเอ่ยคำว่า"รัก"กับเธอ เพราะหากเธอรับรักจากเขา
เขาอาจไม่สามารถดูแลเธอได้ยาวนานเหมือนชายผู้อื่น...
"อ่ะ....อึก...."
โรคประจำตัวของอาชิตะเริ่มแสดงอาการออกมา
เขากุมที่หน้าอกของตนไว้ พยายามจะไม่แสดงอาการให้หญิงสาวเห็น
แต่ก็เป็นไปไม่ได้เพราะเมล่อนได้รู้ว่าอาชิตะมีอาการแบบนี้เสมอ
เธอคอยมองดูและสังเกตุอาการแทบตลอดเวลาด้วยความห่วงใย
"ยา..อยู่ที่ไหนเหรอคะ..!?"
หญิงสาวถามด้วยความเป็นห่วงพลางเข้าไปช่วยพยุงตัวอาชิตะให้นั่งบนเตียง
น้องสาวรีบตอบให้ ความจริงแล้ววันนี้ต้องไปรับยาที่โรงพยาบาล
แต่อาชิตะรู้ว่าเมล่อนจะมาเยี่ยมจึงตัดสินใจไปรับยาหลังจากที่เธอกลับไปแล้ว
เมื่อได้รับรู้ความเป็นห่วงของเมล่อนก็ยิ่งเพิ่มพูนยิ่งเป็นเพราะเธอทำให้เธอยิ่งรู้สึกผิด
หญิงสาวครุ่นคิดหาวิธีและได้นิ่งเงียบไปชั่วครู่
"ยะ..ยัยน้องขี้ฟ้อง..."พี่ชายที่ฟังจนจบเค่นเสียงบ่นทั้งที่เจ็บ
ทันทีที่ตัดสินใจได้ เมล่อนก็หยิบใบรับยาและลุกไปทันที
"พี่สาวจะไปไหน?" เสียงเล็กไถ่ถามด้วยความสงสัยก่อนที่จะได้รับคำตอบแกมประชดว่า
"พี่สาวจะไปรับยามาให้พี่ชายที่ไม่ยอมดูแลตัวเองของหนูน่ะค่ะ.."
สิ้นเสียงหญิงสาวรีบออกจากห้องไปทันที
"เดี๋ยวมันก็หายเอง...." อาชิตะพูดเบาๆ
โชคยังดีที่โรงพยาบาลอยู่ไม่ไกลจากบ้านของชายหนุ่มมากนัก เธอจึงรีบวิ่ง
เพื่อไปรับยามาให้อย่างเร็วที่สุด ......
ในขณะที่เธอรอรับยาอยู่นั้นเธอได้โทรศัพท์ไปถามไถ่อาการของอาชิตะที่รอยู่ที่บ้าน
แต่ก็กลายเป็นการโต้เถียงกันแทนเพราะต่างคนต่างก็ห่วงใยกันจนลืมตัวเอง
"...เธอน่ะรีบร้อนเกินไปรู้ไหม..ฉันไม่ได้เป็นอะไรมาก เธอรีบวิ่งไปแบบนั้น
ถ้าถูกรถ หรือมอเซอร์ไซค์เฉี่ยวเอาจะทำอย่างไร..."
"ฉันเป็นห่วงอาชิตะซังนี่คะ...แถมยาในบ้าน...ก็ไม่มี
เกิดอาการหนักกว่านี้อาชิตะซัง...จะไม่ไหวนะคะ เดี๋ยวฉันจะเอายากลับไปให้นะคะ"
"...เธอนี่ บอกแล้วไงว่าฉันไม่เป็นไรมาก
คิดมากไปแล้วนะ...ฉันก็ห่วงเธอนะ...เมล่อน"
"ฉันน่ะไม่เป็นไรหรอกค่ะ...อาชิตะซัง..ไม่สบายนะคะ...."
ซ่าาา...ซ่าาาา
ในขณะที่ทั้งสองเถีียงกันทางโทรศัพท์ฝนก็ตกลงมา ค่อนข้างหนักทีเดียว
เธอมองไปนอกอาคาร จึงตัดสินใจรอให้ฝนหยุดก่อน...เพราะเธอไม่ได้พกร่มติดตัวมาด้วย..
ในมือเล็กของเธอมีเพียงยาที่รับมาแล้วกับโทรศัพท์
อาชิตะที่เถียงกับเธอได้แสดงว่าอาการดีขึ้นไปเปลาะนึงแล้ว
เธอจึงวางใจที่จะรอและขอให้ไม่เกิดอาการขึ้นอีกครั้ง...
"ทำไม...เธอถึงไม่เข้าใจฉันสักที...."
หลังจากที่เถียงกันมาได้สักระยะหนึ่งอาชิตะก็เริ่มล้าพูดเสียงอิดโรยหญิงสาวเองก็เช่นกัน..
"อาชิตะซังเองก็..เข้าใจฉันได้ไหมคะ..ว่าที่ฉันทำไปทั้งหมดว่า..เพราะอะไร..."
"แล้ว...เพราะอะไรล่ะ..เมล่อน...?"
ในขณะนี้คำว่า "รัก" จุกอยู่ที่อก....
อยากจะเปล่งเสียงพูดคำพยางค์เดียวที่แสนมีความหมายสำคัญนั้นออกไป...
แต่ก็ไม่ได้..เธอไม่กล้าพูดให้อาชิตะรับรู้ถึงเรื่องนี้กลัวจะทำให้เขาลำบากใจ
หญิงสาวรู้ว่าชายหนุ่มเป็นคนดี เป็นคนที่อ่อนโยน เค้าพร้อมที่จะดูแลหญิงคนรัก..
เธออยากที่จะเป็นคนรักของอาชิตะ....
แต่ก็กลัวที่จะทำให้เค้าห่วงยิ่งไปกว่านี้ ยิ่งรักมากยิ่งห่วงใย
ไม่อยากจะเป็นภาระให้เค้า....แค่ได้ดูแล...รักอยู่ห่างๆก็เป็นพอ
เธอหารู้ไม่ว่าชายหนุ่มก็รักเธอเช่นกัน
และอากจะเป็นชายหนุ่มผู้โชคดีที่ได้ชื่อว่าเป็นคนรักของหญิงสาวที่ชื่อเมล่อน
เขาอยากที่จะรักและห่วงใยเธอเหมือนที่คนรักเขาทำกัน แต่ไม่กล้าบอกกับเธอ....
เพราะกังวลว่าตัวเองจะมีชีวิตได้ไม่ยืนยาว....กลัวจะทำให้เธอเสียใจมากขึ้นถ้าเขาจากเธอไป
"........"
"พูดมาสิ....ว่าทำไม?.."
ความลังเลในใจหญิงสาวส่งผลให้เธอพูดไม่ออก ชายหนุ่มซึ่งรอฟังก็ได้แต่อึดอัดหัวใจ...
".....อ่ะ แฮ่ก.."
เสียงครวญครางด้วยความเจ็บปวดของคู่สนทนา ถึงหูเมล่อนโดยไม่ได้ตั้งใจ
ใจของเต้นรัวและรับรู้ได้โดยไม่ต้องบอกว่าอาการของอาชิตะกำเริบอีกครั้ง..!
เธอได้รีบหันขวับมองออกไปนอกอาคาร ฝน...ยังคงตก ไม่ได้ซาลงเลย
แววตาของเธอฉายความกังวลออกมาอย่างเห็นได้ชัด เหงื่อเริ่มออกที่มือและสั่นเบาๆ
"อะ...อาการเป็นอย่างไรบ้างคะ...อาชิตะซัง...."
เสียงที่สั่นเครือเปล่งออกไป ทว่า ไม่มีเสียงที่ตอบรับมาทำให้เธอรู้สึกไม่ดีถึงที่สุด
ตื๊ดดด....!
สายที่ถูกตัดคาดว่ามาจากฝนที่ตกหนักทำให้สัญญาณขาดหายไป
เธอ....มีทางเลือกสองทาง...ระหว่างรอให้ฝนหยุดตกรึว่าวิ่งผ่านฝนออกไป
หญิงสาวเลือกอย่างหลังเพราะเป็นห่วงอาการของเขา อยากเอายาไปให้เขาเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้..
"แฮ่ก...อา อาชิตะซัง..."
ฝนที่สาดเข้าใส่หญิงสาวอย่างหนักไร้ซึ่งความเห็นใจ...เสื้อของเธอชุ่มน้ำทั้งเปียกและหนักขึ้น
เพราะซับน้ำฝน หญิงสาวพยายามออกวิ่งเพื่อจะพ้นจากที่ตรงนี้ไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
ทั้งที่มองทางแทบจะไม่เห็น ต่างกับขามาที่ไม่นานก็ถึงราวฟ้ากับเหว
เวลาเหมือนผ่านไปช้าลงราวกับไม่ขยับ
เมื่อไหร่จะถึงเสียที ...เสียงร่ำร้องในใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า เธอกอดยาไว้แน่น..
ตุบ...
เมล่อนได้ชนกับอะไรบางอย่าง สัมผัสที่อบอุ่น..และฝนรอบตัวเธอก็คล้ายจะหยุดลง..
ทั้งทีเสียงฝนยังได้ยินชัดเต็มสองหู..
เธอค่อยๆลืมตาขึ้นอย่างช้าๆและได้พบกับชายหนุ่มตรงหน้า..อาชิตะ
ซึ่งถือร่มเดินจากบ้านมารับเธอ แต่กลับพบกันกลางทาง
"รอสักหน่อย...ฉันก็จะไปรับแล้วแท้ๆนะ...ดูสิเปียกไปหมดเลยนะ..."
เสียงใหญ่ที่เปี่ยมไปด้วยความอ่อนโยนบ่งบอกถึงความเป็นห่วง
อยากจะบ่นว่าห่วงคนอื่นมากกว่าตัวเองอีกแล้ว..
แต่ดูจากสภาพที่เปียกปอนอ่อนแรงของหญิงสาวผมสีชมพูก็พูดไม่ออก...
"ฉัน...กลัวนี่คะ...อาการก็กำเริบขึ้นมาแบบนั้น..โทรศัพท์ไปถามก็ไม่ได้...
ไม่มีทางเลือกอื่น ฉันอยากให้อาชิตะซัง ได้รับยาเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้น่ะค่ะ..."
รู้อยู่แล้ว ... ชายผมสีขาวรู้ว่าเธอเป็นห่วงเขามากแค่ไหน
เขาพยักหน้าช้าๆ ก่อนที่จะสวมกอดหญิงสาวที่เปียกไปด้วยน้ำฝน
"อ่ะ..เอ๋.." เมล่อนหน้าขึ้นสีอย่างเห็นได้ชัด ตกใจกับการกระทำของอาชิตะ
เธอแอบดีใจ แต่ก็สับสน...
"เอ่อ...ฉันเปียกอยู่นะคะ..." เสียงหวานเอ่ยเบาๆ
แต่ชายหนุ่มไม่ได้ตอบ แต่กลับเอ่ยถามหญิงสาวแทน
"เธอ...ดีกับฉันขนาดนี้เพราะอะไรงั้นรึ..?"
"อา...เอ่อ.." ฝ่ายที่ถูกถามอึกอักเช่นเคย แต่คราวนี้ชายหนุ่มไม่ได้คาดคั้นคำตอบแต่กลับพูดว่า..
"เมล่อน..."
"คะ..?"
"ฉันรู้ตัวดีว่าร่างกายของฉันไม่แข็งแรงเหมือนผู้อื่น และเวลาในชีวิตที่เหลืออาจจะมีไม่มากนัก.."
หญิงสาวฟังเงียบๆ...
"....แต่ ถึงจะเป็นแบบนั้น ฉันก็อยากให้เธอรับรู้เอาไว้ว่า แม้เวลาของชั้นจะน้อยแค่ไหน
แต่ฉันอยากที่จะมอบมันให้เธอ...ทั้งชีวิตของฉันอยากจะใช้กับเธออยู่ร่วมกับเธอ
ฉันอยากเป็นคนผู้นั้นคนที่คอยดูแลเธอทั้งหัวใจตลอดไปจนชีวิตจบลง....
ขอให้ฉันได้เป็นคนรักที่ดูแลเธอบ้างได้ไหมฉันรักเธอนะ...เมล่อน"
น้ำเสียงที่หนักแน่น ความรู้สึกที่จริงใจจากชายหนุ่ม
ทำให้หญิงสาวผมสีชมพูมีใบหน้าที่แดงระเรื่อ .... ดีใจ ดีใจอย่างพูดไม่ถูก
เธอไม่นึกไม่ฝันมาก่อนว่าเขาจะคิดเหมือนกับเธอ ใจตรงกันกับเธอ...
"ฉัน...รัก...อาชิตะซังนะคะ.."
คำพยางค์เดียวที่กลั้นเอาไว้มาแสนนานถูกเอ่ยเอื้อนจากเสียงเล็ก
คราวนี้ใบหน้าของชายหนุ่มเองก็แดงตามอีกคนไปแล้ว
ทั้งสองคนยิ้มไม่หุบเมื่อได้รับรู้ความในใจ
ได้รับรู้ว่าคิดเหมือนกันมาตลอด...
รักกันมาตลอด....
ฝนที่หยุดตกตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้......
แสงแดดอ่อนๆสาดส่องหลังฝนช่างเป็นภาพที่สวยงาม
อ้อมกอดที่อบอุ่นทำให้หญิงลืมความหนาวจากเสื้อผ้าที่เปียกน้ำจนตอนนี้เริ่มจะแห้งแล้ว
สีหน้าของทั้งสองเต็มไปด้วยความสุข......
หลังจากนี้ก็ไม่ต้องปิดบังอะไรอีกแล้ว.....
ความรู้สึกที่ซ่อนอยู่คำว่ารักที่กลั้นไว้...
พูดออกไปได้ตรงๆทุกครั้ง คำสั้นๆที่ฟังแล้วชื่นใจ...
"ฉันรักเธอ"
-----------------------------------------
จบแล้ว _ _" ตั้งใจเขียนแนวรักครั้งแรก ไม่สนุก+มีส่วนที่ไม่เข้าใจตรงไหน ก็ขออภัยด้วยนา
ขอให้สนุกกับเรื่องราวสั้นๆเรื่องนี้ ^ ^.... nu eng
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น